วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ต้นข่อย


ฉันนำภาพนี้มาจากข้างโรงเรียนเขาย้อยวิทยา ที่ฉันนำภาพนี้มาเพราะมีลักษณะที่ตัดง่าย
และมีลักษณะสวยงามน่าชมเป็นต้นไม้ที่ปลูกง่ายและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

กระถางบอนไซ


กระถางบอนไซหลายขนาด หลายแบบ กระถางไม้ใหญ่ กระถางไม้ประดับ กระถางน้ำตก รับทำกระถางตามแบบและขนาดตามต้องการ...

บอนไซ


ดินขุยไผ่แท้ 100 % ดินโมก ดินเผา ดินผสมสูตรพิเศษ สำหรับปลูกบอนไซโดยเฉพาะ มีส่วนผสมหลายชนิด เช่น ขุยมะพร้าว มะพร้าวสับ ใบจามจุรี ดินเผา สาหร่ายทะเล ถ่าน ยาฆ่าแมลง ไส้เดือน ปลวก...

วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การวางตำแหน่งกิ่งหลักของบอนไซ


ก่อนที่เราจะวางตำแหน่งกิ่งโครงสร้างหลักของบอนไซเราก็ต้องเลือกหน้าไม้กันก่อน กล่าวคือ ผู้เลี้ยงจะให้ด้านใดของต้นไม้เป็นด้านหน้าของบอนไซ ซึ่งการเลือกหน้าไม้นี้ก็ให้ดูว่าเมื่อมองไปที่บอนไซในด้านใดแล้วไม้สวยที่สุดโดยดูจากโคนต้น ราก และลำต้น ก็เลือกด้านนั้นเป็นหน้าไม้เพื่อวางตำแหน่งของกิ่งโครงสร้างหลักต่อไป
สำหรับในการเลี้ยงบอนไซนั้นจะมีกิ่งโครงสร้างหลักที่สำคัญอยู่ 5 กิ่ง โดยจะมีตำแหน่งของกิ่งที่สลับกันไป ไม่อยู่ซ้อนกันและไม่อยู่ในตำแหน่งที่ตรงข้ามกับกิ่งอื่นโดยกระจายอยู่รอบต้น ซึ่งจะทำให้บอนไซได้รูปทรงที่สวยงาม ดังนั้นการวางตำแหน่งกิ่งโครงสร้างหลักควรวางตำแหน่งไว้ดังนี้
กิ่งที่ 1 เป็นกิ่งแรกที่อยู่เหนือจากโคนต้นขึ้นไป การวางตำแหน่งกิ่งนั้นจะวางตำแหน่งกิ่งไว้ด้านซ้ายหรือด้านขวาก็ได้กิ่งที่ 2 เป็นกิ่งที่อยู่เหนือขึ้นไปจากกิ่งที่ 1 การวางตำแหน่งกิ่งนั้นจะวางตำแหน่งกิ่งไว้ตรงข้ามกับกิ่งที่ 1กิ่งที่ 3 เป็นกิ่งที่อยู่เหนือขึ้นไปจากกิ่งที่ 2 การวางตำแหน่งกิ่งนั้นจะวางตำแหน่งกิ่งไว้ตรงข้ามกับกิ่งที่ 2 แต่จะเบนออกมาด้านหน้าเพื่อไม่ให้ซ้อนกับกิ่งที่ 1กิ่งหลัง เป็นกิ่งที่อยู่ระหว่างกิ่งที่ 1 กับกิ่งที่ 2 หรืออยู่เหนือกิ่งที่ 2 ก็ได้ ตามความเหมาะสมของแต่ละต้น การวางตำแหน่งกิ่งนั้นจะวางตำแหน่งกิ่งไว้ด้านหลังของต้นไม้โดยให้กิ่งเบนออกด้านซ้ายหรือด้านขวาก็ได้ กิ่งหน้า เป็นกิ่งที่อยู่เหนือขึ้นไปจากกิ่งที่ 3 การวางตำแหน่งกิ่งนั้นจะวางตำแหน่งกิ่งไว้ด้านหน้าของต้นไม้ แต่กิ่งจะไม่พุ่งออกมาโดยตรงจะเบนออกซ้ายหรือขวาก็ได้

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การเลี้ยงไม้จากตอ



:: การเลี้ยงไม้จากตอ ::
การเลี้ยงไม้จากตอมีขั้นตอนดังนี้
1. เมื่อได้ตอไม้มาให้นำมาเลี้ยงในกระถางใบใหญ่ ๆ ก่อนเพื่อจะได้ดินมาก ๆ ไม้จะได้โตเร็วขึ้น โดยตัดให้เตี้ยหรือสูงก็ได้ขึ้นอยู่กับต้นไม้นั้น บางครั้งต้นที่ได้มาอาจตัดให้ยอดค่อย ๆ เล็กลงได้โดยไม่ต้องตัดทิ้งทั้งหมดช่วยลดเวลาการเลี้ยงได้หลายปี หากตอใหญ่มากอาจจะปลูกลงดินก็ได้ ดังรูป
2.เมื่อไม้เริ่มแตกมาสักระยะหนึ่งกิ่งแข็งแรงพอก็เริ่มคัดเลือกกิ่งที่จะไว้ทำเป็นยอดไม้ไว้รวมทั้งเลือกกิ่งที่จะทำเป็นกิ่งหลักไว้ด้วยโดยเลี้ยงไปพร้อม ๆ กับการเลี้ยงยอดไม้หากไม่เลี้ยงไปพร้อมกับมาเลี้ยงที่หลังจะใช้เวลานาน ใช้ลวดดัดให้กิ่งที่จะทำเป็นยอดไม้ชี้ขึ้น ดังรูป
3.หลังจากเลี้ยงยอดไม้มาได้สักระยะหนึ่งไม้แข็งแรงดีพอก็ให้แต่งบริเวณรอยแผลที่ตัด โดยใช้คีมคลีบ หรือใช้สิ่วตอกเนื้อไม้ออกในลักษณะเฉียงลงเหมือน ปากฉลามแต่อย่าให้แบน เพื่อให้เนื้อไม้ที่ออกมาปิดแผลรอยตัดเร็วขึ้น และยอดไม้เรียวขึ้นอีกทั้งกลมกลืนกับลำต้น ดังรูป
4.เมื่อยอดไม้โตพอสมควรก็ให้ตัดไม้ทิ้งเหลือไว้ประมาณ 1ใน 3 หรือ 1 ใน 4 ของลำต้นเหลือไว้พอเหมาะสมกับลำต้น ดังรูป
5.ทำตามข้อ 2 ถึง ข้อ 4 ไปเรื้อย ๆ โดยกิ่งที่เลือกทำเป็นยอดจะอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกันกับยอดที่เลี้ยงไว้เดิมจะทำให้ต้นไม้มีลักษณะคดงอแบบตัว S ซึ่งขนาดของลำต้นค่อย ๆ ลดขนาดลงจากฐานใหญ่ไปถึงยอดเรียวเล็กลง ดังรูป
6...เมื่อยอดเล็กก็สามารถนำไปเลี้ยงรายละเอียดต่อได้ ดังรูป

ไม้เกาะหิน


ไม้เกาะหิน คือการปลูกต้นไม้บนก้อนหิน โดยให้รากเกาะและแนบกับก้อนหิน
การทำไม้เกาะหิน มีวิธีการทำดังนี้
เตรียมกระถางนำตะแกรงมาวางปิดรูกระถางใส่ดินเผาเม็ดใหญ่หรือถ่านแล้วใส่ดินผสม

เตรียมก้อนหิน ต้นไม้ที่จะนำมาเกาะหิน ถุงพลาสติด และเชือก


นำต้นไม้ออกจากกระถาง รื้อดินออกให้เหลือแต่ราก


เลือกตำแหน่งของก้อนหินที่จะวางต้นไม้ แล้ววางต้นไม้ลงไปในตำแหน่งที่เลือก จัดรากต้นไม้ให้รากกระจายรอบก้อนหิน


ใช้เชือกมัดรากให้แน่น โดยให้รากแนบชิดกับก้อนหิน




นำไปใส่กระถางที่เตรียมไว้ แล้วใส่ดินไปพอสมควร


นำถุงพลาสติกมาสวมโดยให้ก้อนหินอยู่กึ่งกลางของถุงพลาสติก แล้วใส่ดินไปในถุงพลาสติก



เมื่อเลี้ยงมาได้ประมาณ 6 เดือนก็รื้อถุงพลาสติกออกจัดรากมัดด้วยเชือกแล้วสวมถุงพลาสติกอีกครั้ง หรือจะรื้อทุกๆ 6 เดือนก็ได้








เมื่อรากใหญ่พอสมควรก็รื้อถุงพลาสติกออกได้



เลี้ยงจนลำต้นใหญ่จนพอใจก็ตัดต้นให้เหลือแต่ตอ นำมาต่อยอดและเลี้ยงกิ่งจนจบ